Taroko Gorge Tour
ทัวร์หุบเขา Taroko และเดินตลาด Dongdamen เมือง Hualien
Jiufen to Hualien
Taroko Gorge Tour ที่เราจองไว้กับทาง Klook คือ รอบ 10.45 น. เราต้องออกจาก Jiufen ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปขึ้นรถไฟที่สถานี Ruifang และถึง Hualien ประมาณ 9.30 น.
จาก Ruifang เรานั่งรถไฟด่วนไป Hualien ใช้เวลา 2 ชม.นิดๆ ที่นั่งที่เราได้ว่างแค่จากสถานี Ruifang ถึง Yilan เท่านั้น พอรถไฟไปถึง Yilan เราก็ต้องย้ายไปหาที่ว่างที่อื่น เพราะมีคนจองไว้ก่อนแล้ว ในตอนแรกเราก็กังวลว่าจะมีที่นั่งไหม แต่ก็หาที่ว่างได้ไม่ยากอย่างที่คิด มีนักท่องเที่ยวจีนที่ขอสลับที่นั่งกับเราเพื่อจะได้นั่งข้างเพื่อนเธอก่อนหน้านี้มาช่วยเราหาที่นั่งว่างให้ด้วย
จุดจำหน่ายตั๋วของสถานี Hualien จะอยู่บริเวณชั้น 2 เรารีบไปจองตั๋วกลับ Taipei ไว้ก่อนเพราะกลัวจะไม่มีที่นั่ง รถไฟด่วนจาก Hualien ไป Taipei ราคา NT$440 แพงกว่าที่นั่งมาจาก Ruifang เสียอีก ทั้งๆ ที่ระยะทางสั้นกว่า
เราตั้งใจจะเอาของบางส่วนไปฝากที่ที่พักก่อนจะไปเจอกับทัวร์ แต่ก็ไม่เจอใครอยู่ที่ Reception สุดท้ายเราเลยต้องฝากของไว้ที่สถานี Hualien แทน
จุดรับฝากของที่สถานีนี้จะไม่ใช่ Locker เหมือนสถานีอื่นๆ แต่เป็นห้องรับฝากของ เนื่องจากช่วงนี้ (พ.ค. 2019) สถานีมีการปรับปรุงก่อสร้างอยู่ เราต้องเดินผ่านไซต์ก่อสร้างไปทาง Hualien County Information Center แล้วเลี้ยวขวาเดินตามป้าย(ภาษาจีน)เพื่อเข้าไปที่ห้องรับฝากของ
Taroko Gorge Day Trip
ทัวร์ของ Klook มีเส้นทาง A และ B ให้เลือก เส้นทางที่เราเลือกคือ เส้นทาง B แบบไม่มีอาหารกลางวัน แต่รถก็จอดแวะ 7-11 ให้เราลงไปซื้ออะไรกินเองได้ แพลนของเส้นทาง B คือ
- 10:35am-10:50am pick up
- Pine Garden (own expense)
- Lunch (depending on package)
- Qingshui Cliff Scenic Area
- Buluowan Plateau
- Swallows’ Grotto (Yanzikou) Trail
- Changchun Shrine
- Shopping center
- Qixingtan Scenic Area
- 5:30pm return to Hualien city
จุดนัดขึ้นรถทัวร์คือที่ด้านหน้า Hualien County Information Center ทัวร์นี้ไกด์พูดแต่ภาษาจีน แต่เราก็ได้รับความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวคนอื่นช่วยแปลให้เวลาที่ไกด์นัดแนะเวลาเมื่อแวะจอดรถลงไปดูตามจุดต่างๆ
Pine Garden
เป็นสวนตั้งอยู่บนเนินเขา จุดเด่นของที่นี่ก็คือต้นสนตามชื่อของสวน ในอดีตที่นี่เคยเป็นสำนักงานทหารญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมและกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของฮวาเหลียน ด้านหน้า Pine Garden จะมีร้านกาแฟและร้านขายของฝากอยู่ แต่ส่วนของสวนนั้นจะมีค่าเข้า NT$50 ซึ่งเราไม่ได้เข้าไป แต่จากระเบียงภายในสวนนั้นจะสามารถมองออกไปเห็นวิวทะเลได้
Taroko Gorge
หลังจากแวะซื้อ(ทาน)อาหารเรียบร้อย รถทัวร์ก็มุ่งหน้าพาเราไปยังหุบเขา Taroko แต่เพราะฝนตกตลอดทั้งทริป ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางไปบ้าง และเส้นทางเดิน trail บางเส้นก็ได้เดินสำรวจเพียงสั้นๆ เท่านั้น
ไกด์แจกหมวกนิรภัยให้ลูกทัวร์ทุกคนเมื่อรถจอดให้เราเดิน trail ผ่านช่วงหุบเขาที่เป็นอุโมงค์ เพื่อป้องกันหินที่อาจร่วงลงมา สิ่งหนึ่งที่น่ารักของไกด์ก็คือ เขาจะกระตือรือร้นในการเรียกให้ลูกทัวร์ไปดูหน้าผาที่รูปร่างเหมือนใบหน้าคนเอยหมีเอยมากๆ ถึงจะต้องใช้จินตนาการเข้าร่วมกว่าจะหาเจอก็เถอะ 555
เมื่อจบจากโซน Taroko Gorge แล้ว รถทัวร์ก็พาเรามายังฝั่งทะเลตะวันออกของไต้หวัน โดยจอดแวะจุดแรกที่จุดชมวิวหน้าผา Qingshui ก่อนจะไปยังหาด Qixingtan ที่ซึ่งคนดูแลโฮสเทลแนะนำเราว่าเหมาะจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
หาด Qixingtan มีจุดเด่นที่เป็นหาดหินกรวด นักท่องเที่ยวจะชอบนำก้อนหินขนาดต่างๆ มาวางตั้งเรียงกัน ทะเลตรงนี้จะไม่สามารถลงเล่นได้เพราะเป็นน้ำลึก
dongDAmen Night Market
เมื่อเช็คอินที่ที่พักและจัดการเก็บของเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายต่อไปของเราก็คือออกไปหาของกินที่ตลาดกลางคืน เนื่องจากเส้นทางรถบัสใน Hualien ไม่ค่อยทั่วถึงและฝนยังคงตกอยู่ เราเลยเลือกเดินทางด้วยแท็กซี่ เปิดใน Google Maps ดูแล้วก็มีความงงงวยว่าต้องไปอันไหนเพราะเหมือนจะมีหลายๆ ตลาดในโซนเดียวกัน ก็เลยเลือกอันที่เราสามารถอ่านชื่อได้ก็คือ Dongdamen(ตงต้าเหมิน)นั่นเอง
เมื่อมาถึงตลาดก็ถึงบางอ้อว่าตลาดนี้มีทางเข้าหลายทางมากกก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสรุปแล้วจริงๆ ชื่ออะไรบ้าง 555 แต่เป็นตลาดที่ใหญ่มากจริงๆ ใหญ่ยิ่งกว่าตลาดรถไฟบ้านเราเสียอีก เดินแยกแตกซอกซอยไปยังทางออกอื่นๆ ได้ และร้านอาหารเยอะมากๆ แต่ก็มีร้านเกม ร้านปาโป่งเหมือนงานวัดบ้านเราด้วย
ที่นี่มีร้านอาหารตามสั่งเหมือนบ้านเราด้วย มีผัก อาหารทะเล เนื้อสัตว์ต่างๆ ให้เลือกประกอบเมนู เราก็อยากลองเหมือนกัน แต่เสียดายดูจะสั่งยากไปหน่อยก็เลยไม่ได้ลอง พวกร้านใหญ่ๆ เมื่อสั่งอาหารแล้วก็จะมีพื้นที่ด้านหลังร้านให้เข้าไปนั่งกินได้
อีกเมนูที่เห็นคนเยอะมากๆ ทุกร้านเลยก็คือบาบีคิวหม่าล่า ซึ่งก็ไม่ได้ไปลองกับเขาเพราะไม่อยากต่อคิวนาน ก็เลยเลือกสั่งปลาหมึกย่างและไก่ย่างเสียบไม้โรยด้วยพริกหม่าล่าแทนซึ่งไม่มีความเผ็ดเลย แต่รสชาติถูกปากเราทีเดียวแม้จะไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ด
และนี่คืออาหารหลักของเรามื้อนี้ นั่นก็คือ ไข่เจียวเบค่อนชีสสส ราคา NT$65 ชิ้นเดียวอิ่มเลยจริงๆ อร่อยมากๆๆๆ ร้านมีคิวประมาณหนึ่งแต่ก็ทำเร็วมาก จะซื้อกลับบ้านหรือนั่งกินในร้านก็ได้ เมนูในร้านทั้งหมดเป็นไข่เจียวไส้ต่างๆ ตั้งแต่หอยนางรมไปยันใบโหระพา ถ้าใครได้มาแล้วอยากให้มาลองจริงๆ ชอบมาก